ราคาน้ำมันพุ่งทะยานทำสถิติปิดเหนือระดับ 104 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรลเป็นครั้งแรก หลังกลุ่มโอเปกประกาศไม่เพิ่มกำลังการผลิต
นายโอมาร์ อิบราฮิม โฆษกกลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (โอเปก)
แถลงหลังการประชุมที่กรุงเวียนนาประเทศออสเตรีย ว่า
รัฐมนตรีน้ำมันของประเทศสมาชิกโอเปกทั้ง 13 ชาติ
เห็นพ้องกันที่จะคงกำลังการผลิตน้ำมันไว้ที่วันละ 32 ล้านบาร์เรลต่อไป
เนื่องจากเห็นว่าปริมาณน้ำมันดิบสำรองยังอยู่ในเกณฑ์ดี
แม้โอเปกจะวิตกต่อความผันผวนของตลาด ซึ่งมีสาเหตุมาจากหลายปัจจัย
ทั้งเงินดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่า การเก็งกำไร และสถานการณ์ด้านภูมิรัฐศาสตร์
แต่ย้ำว่าไม่ได้ส่งผลให้เกิดปัญหาขาดแคลนน้ำมันแต่อย่างใด
และเชื่อว่าสถานการณ์ราคาน้ำมันจะลดระดับความร้อนแรงลงในช่วงไตรมาสที่ 2
ของปีนี้ สถานการณ์ราคาน้ำมันดิบตอบรับคำแถลงของที่ประชุมโอเปกในทันที
โดยราคาน้ำมันดิบตลาดไนเม็กซ์ งวดส่งมอบล่วงหน้าเดือนเมษายน
พุ่งทะยานทำสถิติสูงสุดเป็นประวัติการณ์รอบใหม่อีกครั้งที่ระดับ 104.64
ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล ก่อนขยับราคาลงมาปิดที่ 104.52 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล
พุ่งขึ้นจากวานนี้ 5 ดอลลาร์สหรัฐ
โดยมีปัจจัยปริมาณน้ำมันดิบสำรองในสหรัฐลดลง
เป็นผลพวงผลักดันให้ราคาน้ำมันพุ่งขึ้นด้วยด้านประธานาธิบดีจอร์จ
ดับเบิลยู บุช ผู้นำสหรัฐ เปิดเผยว่า
เป็นความผิดพลาดอย่างใหญ่หลวงที่โอเปกไม่เพิ่มกำลังการผลิตน้ำมัน
แต่ก็ยืนยันว่าสหรัฐจะต้องยุติการพึ่งพาน้ำมันจากต่างชาติเสียที
เนื่องจากส่งผลกระทบต่อความมั่นคงของชาติ
แหล่งที่มา : http://www.thaigov.go.th/th/useful-information/item/16458-.html
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น